หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การใช้วิตามินเพื่อป้องกันความชรา



การใช้วิตามินเพื่อป้องกันความชรา


การใช้วิตามินในหลักของ Anti-aging มีจุดประสงค์ 3 ประการคือ
1. ทดแทนวิตามินที่เราอาจได้ไม่เพียงพอ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ทานแต่แป้งและขนม ไม่ทานผัก ซึ่งส่งผลทำให้มีการขาดวิตามินสำคัญหลายชนิด หรือแม้แต่วิตามินดี ซึ่งเราเข้าใจว่าน่าจะได้เพียงพอจากแสงแดด แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่ ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสแดดมากนัก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี ภาวะขาดวิตามินดีไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดภาวะกระดูกบาง แต่ยังมีผลทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด, ไตเสื่อม, ภูมิต้านทานบกพร่อง และมะเร็ง
2. การใช้วิตามินขนาดสูงเพื่อใช้รักษาโรค ตัวอย่างในการใช้วิตามิน B เพื่อรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ, Niacin เพื่อช่วยลดไขมันในเลือด, การใช้อนุพันธ์ของวิตามิน A เพื่อรักษาสิว, หรือการใช้วิตามิน K เพื่อรักษาโรคกระดูกบาง เป็นต้น
3. การใช้วิตามินเพื่อเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามิน A, C, E มี คุณสมบัติในการจับกับอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของความชราดังที่กล่าวมาแล้ว มีการศึกษาถึงการใช้วิตะมินดังกล่าวเพื่อป้องกันโรคหัวใจ หรือโรคมะเร็ง แต่ผลการศึกษาที่ผ่านมาไม่ได้พบถึงประโยชน์ของวิตามินทั้ง 3 ในการป้องกันโรคอย่างเด่นชัด นอกจากนั้น การใช้วิตามิน A ในรูปของ เบต้า คาโรตีน ยังเพิ่มอุบัติการณ์ของมะเร็งปอด ในคนที่สูบบุหรี่อีกด้วย  

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลของการใช้สารต้านอนุมูลอิสระตัวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
• Astaxanthin สารสีแดงของปลาแซลมอนและกุ้ง มีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีรายงานถึงการใช้ astaxanthin เพื่อชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวาน
• Resveratrol เป็นสาร polyphenol สกัดจากผิวองุ่น ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสามารถป้องกันโรคมะเร็ง, โรคอ้วน, และเบาหวานในสัตว์ทดลองได้
• Alpha lipoic acid เป็น anti-oxidant ที่มีการศึกษาในคนพบว่าสามารถช่วยรักษาภาวะปลายประสาทเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานได้
• Selenium ช่วยป้องกันมะเร็งของปอด ลำไส้ใหญ่ และต่อมลูกหมาก
• Coenzyme Q10 ช่วยป้องกันโรค Parkinson และมีการใช้ในขนาดสูงเพื่อรักษาภาวะหัวใจวาย (congestive heart failure)
• N-Acetyl cysteine นอกจากจะมีคุณสมบัติในการละลายเสมหะ ยังเปลี่ยนเป็น glutathione ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลักภายในเซลล์ ในปัจจุบัน N-Acetyl cysteine ได้ถูกนำมาใช้ในการป้องกันไตวายจากการฉีดสารทึบแสง, ป้องกันภาวะ reperfusion injury ในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดอุดตัน, และป้องกันภาวะตับวายจากพิษของ paracetamol

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น